เช็ก! 5 ปัญหาลำไส้ของเด็กแรกเกิด ที่คุณแม่ต้องหมั่นสังเกต
- ctchaninthon
- 23 ส.ค. 2567
- ยาว 1 นาที
เเม่ๆ รู้ไหม ลูกน้อยในช่วงเดือนแรกนั้นบอบบางและป่วยง่ายเกินกว่าที่จะคาดเดาได้ ซึ่งบางครั้งอาการท้องเสียหรือท้องผูกที่ผู้ใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับเจ้าตัวน้อยนั้น อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่จนไม่สามารถมองข้ามได้เลยค่ะ
วันนี้ครูก้อยจะพามาทำความรู้จักกับ 5 ปัญหาที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของลำไส้ของลูกน้อยที่อายุไม่เกิน1ขวบกันค่ะ
1.ท้องผูก
อาการท้องผูกในเด็กเล็กมีสาเหตุหลักๆ อยู่ 2 กลุ่ม คือ
1) มีลำไส้ผิดปกติมาตั้งแต่เกิด เช่น ผนังลำไส้ไม่มีปมประสาท ทำให้เด็กไม่สามารถถ่ายเองได้ ต้องมีการสวนอยู่บ่อยๆ
2) กลุ่มที่มีลำไส้ปกติ แต่กินผักผลไม้น้อย หรือเด็กบางคนเคยมีประสบการณ์การถ่ายอุจจาระที่แข็ง เบ่งยาก หรือมีการฉีกขาดของรูทวาร ทำให้เด็กฝังใจและรู้สึกกลัว เลยเลือกที่จะกลั้นอุจจาระเอาไว้
โดยอาการที่พบ คือ ท้องอืดจากภาวะลำไส้ใหญ่อุดตัน และสังเกตอาการของลูกที่กลั้นอุจจาระ ก็คือ เขย่งขา เกร็งขา ทำขาไขว้กัน บีบก้น และชอบเข้ามุม
วิธีการดูแล คือ ในกลุ่มเด็กที่มีความผิดปกติของลำไส้มาตั้งแต่เกิด จำเป็นต้องแก้ด้วยการผ่าตัดลำไส้ส่วนที่ผิดปกติทิ้ง แต่ในกลุ่มเด็กที่มีลำไส้ปกติดี สามารถแก้ได้ด้วยการกินผักผลไม้ให้มากขึ้น หรือกินยาที่ช่วยทำให้อุจจาระนิ่ม
2. ลำไส้ติดเชื้อ
เป็นโรคฮิตที่สุดในกลุ่มเด็กเล็ก ครูก้อยได้สืบค้นงานวิจัยพบว่าสาเหตุที่ทำให้ลำไส้ติดเชื้อนั้นเกิดจากไวรัสมากถึง60%
งานวิจัยเรื่อง The burden and etiology of diarrheal illness in developing countries. ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pediatric Clinics ปี 2017
พบว่า เด็กกลุ่มนี้จะมีอุจจาระร่วงประมาณ 5-6 ครั้งต่อปี ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ก็เกิดจากเชื้อไวรัสประมาณ 50-60% และเชื้อแบคทีเรียอีก 30% ที่เหลืออาจเป็นสาเหตุอื่นๆ เช่น อาหารเป็นพิษ
อาการที่พบ คือ ถ่ายเหลวมีน้ำมาก บางกรณีจะมีเลือดปน หรืออาจจะมีไข้ร่วมด้วย หากเกิดจากการติดเชื้อไวรัส อาจจะมีอาการไอ มีน้ำมูกไหล ถ้าเด็กมีอาการขาดน้ำมากๆ อย่างต่อเนื่อง จะเริ่มมีอาการปากแห้ง น้ำลายน้อย เบ้าตาลึก ปัสสาวะน้อยผิดปกติ ซึม และตัวเย็น
วิธีการดูแล คือ เมื่อแน่ใจว่าร่างกายของลูกสูญเสียน้ำ อาจจะทำเกลือแร่ให้ลูกทีละน้อย และ บ่อยๆ ถ้าเด็กดื่มได้โดยไม่อาเจียนหลังผ่านไป 4 ชั่วโมง ให้เริ่มลองทานอาหารอ่อนๆ แต่ถ้าลูกยังมีอาการถ่ายเหลว อาเจียนซ้ำๆ ไม่หยุด ให้รีบนำลูกไปพบเเพทย์โดยด่วนค่ะ
3. ลำไส้อักเสบ
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของลำไส้อักเสบคือการแพ้โปรตีนนมวัว รองมาคือโปรตีนจากถั่วเหลือง สำหรับการแพ้นมวัวนั้นเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของเด็กผิดปกติ ทำให้ร่างกายของลูกน้อยไม่สามารถย่อยโปรตีนของนมวัวได้
อาการที่พบ คือ ถ่ายอุจจาระเหลว หรือถ่ายมีมูกเลือดปน
วิธีการดูแล คือ ให้ลูกงดอาหารที่แพ้รวมถึงนมวัว และที่สำคัญควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยที่ถูกต้อง คุณแม่ไม่ควรคาดเดาด้วยตัวเองหรือปรับการกินด้วยตัวเอง เพราะ 15-45% ของเด็กที่แพ้นมวัว ก็มักจะแพ้นมถั่วเหลืองด้วยเหมือนกันค่ะ
4. ลำไส้เล็กสั้น
เกิดจากความผิดปกติของทางเดินอาหารที่มีมาตั้งแต่กำเนิด หรือในกรณีที่ทารกคลอดก่อนกำหนดและมีภาวะขาดเลือดไปเลี้ยงลำไส้จนส่งผลให้ลำไส้สั้น
อาการที่พบ คือ ถ่ายเหลว มีน้ำเยอะ และเด็กจะไม่เจริญเติบโตตามวัยเท่าที่ควร เนื่องจากลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมน้ำ สารอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ เมื่อลำไส้เล็กสั้นลงจึงทำให้การดูดซึมต่างๆ ก็ทำได้ไม่ดี
วิธีการดูแล คือ ส่วนใหญ่เคสนี้รักษาด้วยการผ่าตัดลำไส้ออกบางส่วน แต่ยังเหลือความยาวลำไส้เล็ก ไว้บ้าง เพื่อให้เด็กสามารถรับอาหารผ่านทางปากได้ แต่ถ้าเคสที่ลำไส้เล็กมีขนาดสั้นมากๆ ก็จำเป็นต้องให้อาหารทางหลอดเลือดแทน
5. ลำไส้กลืนกัน
โรคนี้เกิดได้กับเด็กตั้งแต่วัยทารกและยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าเกิดจากเชื้อไวรัส ทำให้ต่อมน้ำเหลืองบริเวณส่วนปลายของลำไส้เล็กโตขึ้น ลำไส้เล็กเลยมุดตัวเข้าไปในลำไส้ใหญ่
อาการ คือ เด็กจะร้องไห้งอแงเพราะปวดท้อง เมื่อดื่มนมหรือทานอาหารเข้าไปก็จะดีขึ้นสักพัก แต่ก็จะปวดขึ้นมาอีก บางครั้งอาจมีสีน้ำดีปนออกมากับอาเจียน เพราะว่ามีการอุดตันของลำไส้ เมื่อลำไส้กลืนกันมากๆ อาจจะเริ่มขาดเลือด เวลาถ่ายจะสังเกตได้ว่ามีเลือดปนออดมาด้วย อาจมีไข้ และมีอาการซึม
วิธีการรักษามี 2 แบบ ดังนี้
1) ดันลำไส้ส่วนที่กลืนกันออกมาโดยใช้แรงดันจากการสวนลำไส้ใหญ่
2) การผ่าตัดเอาส่วนลำไส้ที่กลืนกันออก หรือในเคสที่มีการเน่าของลำไส้ ก็จำเป็นต้องตัดลำไส้ส่วนนั้นออก และต่อลำไส้ส่วนที่ดีเข้าหากัน
ดังนั้น แม่ๆ ควรหมั่นสังเกตอาการต่างๆ ของลูกน้อย หากมีอาการร้องไห้ไม่หยุดเหมือนว่ากำลังปวดท้องอยู่ หรือมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรลองพามาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางกุมารเวชศาสตร์นะคะ เพราะอาจเป็นโรคลำไส้ชนิดใดชนิดหนึ่งได้ค่ะ
#ลูกสุขกายเราสุขใจ
Comentários