top of page

วิจัยเผย นิสัยการกินที่ผิดของลูก ทำให้เกิดโรคอ้วนได้

อัปเดตเมื่อ 26 ส.ค. 2567

ree

เเม่ๆ ทราบอยู่เเล้วว่า อาหารการกินเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกมีการเจริญเติบโต และมีสุขภาพที่แข็งแรง แต่ในบางครั้งเเม่ๆ อาจจะไม่ได้สังเกตพฤติกรรมการกินของลูกมากนัก จึงทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินของลูกอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ


วันนี้ครูก้อยจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับ พฤติกรรมการกินแบบผิดๆ ของลูก ว่ามีอะไรบ้าง และส่งผลเสียต่อลูกอย่างไรค่ะ 


1.ไม่ยอมกินผัก 


ผักมักถูกมองเป็นศัตรูตัวร้ายของลูกๆ  และเด็กหลายคนพยายามหลีกเลี่ยงในการกินทุกครั้งที่เห็นในจานอาหาร สาเหตุที่ลูกๆ ไม่ชอบกินผักอาจมีต้นตอมาจากการรับประทานอาหารของแม่ขณะตั้งครรภ์ หากแม่ๆ กินผักที่หลากหลายในช่วงนั้น โอกาสที่ลูกจะชอบผักก็มีมากขึ้นไปด้วยค่ะ 


หากลูกๆ ไม่กินผักจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น ทำให้ลูกท้องผูก และอาจขาดวิตามินเอ ซี อี รวมถึงเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ลูกมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำ และป่วยบ่อยได้ค่ะ 


2.กินแต่ของหวาน 


ของหวานเป็นสิ่งที่ลูกๆ หลงรัก เพราะมีรสชาติที่อร่อย และมักจะมาในรูปแบบที่มีสีสันสดใส ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจ ตั้งแต่ขนมเค้ก โดนัท ไปจนถึงคุกกี้ ทั้งหมดนี้ล้วนมีแป้งเป็นส่วนผสมหลัก ที่ทำให้ลูกรู้สึกอิ่มและอาจทำให้ไม่ยอมกินอาหารหลักได้ ซึ่งปัญหานี้ไม่เพียงทำให้ลูกขาดสารอาหารที่จำเป็น แต่ยังนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหลายประการ เช่น โรคอ้วน ฟันผุ โรคเบาหวานและมีน้ำตาลในเลือดสูง 


ดังนั้น แม่ๆ จึงควรปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีของลูกๆ ไม่มีขนมตุนไว้ในบ้านตลอดเวลา สอนให้ลูกไม่ชอบกินของหวาน เข้าใจผลเสียของการกินของหวานที่มากเกินไป และแนะนำการกินอาหารที่มีประโยชน์


3.ติดรสจัด


การติดรสชาติเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้องในครอบครัว หลายครั้งที่แม่ๆ อาจคิดว่าการเติมเครื่องปรุงเช่น ซีอิ๊ว น้ำปลา หรือเกลือลงในอาหารของลูกๆ จะทำให้อาหารมีรสชาติอร่อยขึ้นและลูกจะยอมกิน แต่จริงๆ แล้วลูกยังไม่สามารถแยกแยะรสชาติได้ดี เพราะเคยชินกับนมแม่มาตลอด 6 เดือนแรก เมื่อโตขึ้น หากคนในครอบครัวให้ลูกลองชิมอาหารที่มีรสชาติหนักขึ้นบ่อยๆ อาจคุ้นเคยและติดการกินอาหารที่มีรสจัดได้ ซึ่งอาจไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น โรคไต โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง


ดังนั้น การเปลี่ยนนิสัยการกินควรเริ่มต้นที่ครอบครัวด้วยการปรับสภาพแวดล้อมรอบตัวให้มีแต่ของกินที่ดีและมีประโยชน์  และหลีกเลี่ยงการปรุงอาหารให้มีรสจัด


4.เลือกกิน


การเลือกกินหรือกินยากเป็นปัญหายอดฮิตที่เเม่ๆ มักพบเจอเมื่อต้องรับมือกับพฤติกรรมการกินของลูกเล็กในวัย 1-3 ขวบ เด็กในวัยนี้ต้องปรับตัวจากการกินอาหารเหลว มากินอาหารที่ต้องเคี้ยว อีกทั้งยังมีการพัฒนาตัวตนของตนเองมากขึ้น ทำให้ลูกแสดงออกถึงความชอบและไม่ชอบในการกินอาหาร พฤติกรรมนี้อาจทำให้ดูเหมือนว่ากินยากและเลือกกินมากขึ้น 


ซึ่งเเม่ๆ สามารถปรับให้ลูกๆ ไม่เลือกกินได้ด้วยการไม่บังคับให้เขากินอาหารที่ไม่คุ้นเคย ค่อยๆ ให้ลองอาหารใหม่ๆ ดัดแปลงอาหารต่างๆ ให้มีหน้าตาน่ากิน หรืออาจให้ลูกๆ ลองมาเข้าครัวด้วยกันเพื่อทำให้เขารู้สึกมีส่วนร่วมในอาหารมื้อนั้นจนอยากจะกินอาหารให้หมดค่ะ  


5.กินแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ 


ขนมกรุบกรอบ ขนมถุง เยลลี่ รวมไปถึงอาหารจั๊งก์ฟู้ด อย่างเฟรนช์ฟรายส์และนักเก็ต ซึ่งในอาหารเหล่านี้มักจะมีคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก รวมไปถึงไขมัน น้ำตาล และตัวการสำคัญที่ทำให้มีรสชาติอร่อยแต่แทบจะไม่มีคุณค่าทางสารอาหารเลย คือ เครื่องปรุงรส ที่มักจะทำให้อาหารเหล่านี้มีรสชาติเค็มจัด และหวานจัด อีกทั้งยังมีการใส่สารกันบูด สารปรุงแต่งรสต่างๆ ที่จะทำให้ลูกๆ ได้รับโซเดียมและน้ำตาลที่มากเกินไปในแต่ละวัน และอาจเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน ไตทำงานหนักอีกด้วยค่ะ 


ดังนั้น แม่ๆ ไม่ควรฝึกให้ลูกกินขนมตั้งแต่ยังเล็ก และคอยปลูกฝังว่าขนมชนิดใดที่มีประโยชน์ และโทษของการกินขนมถุงเป็นยังไง 


นอกจากนี้ก็ควรจะเลือกขนมที่มีประโยชน์แทน มีคุณค่าทางโภชนาการ ไม่มีการปรุงรสหรือเติมแต่งสารต่างๆ รวมไปถึงมีขนาดพอดีคำ ชิ้นไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป


โดยปัจจุบันการเข้าถึงอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อลูกๆ นั้นเป็นอะไรที่ง่าย และสะดวกมากๆ ไม่ว่าจะเป็นทางโซเชียลมิเดีย  โฆษณาต่างๆ หรือจากเพื่อนๆ ถ้าหากได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการกินอาหารที่ผิดๆ จะทำให้ลูกมีพฤติกรรมการกินที่ผิดด้วยเช่นกันค่ะ 


และครูก้อยได้สืบค้นพบว่าพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ดีของเด็กนั้นเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเรื้อรังได้


จากงานวิจัยเรื่อง Determining the Impact of Lifestyle on the Health of Primary School Children in Slovenia Through Mixed Membership Focus Groups ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Community Health เมื่อปี 2023 


ได้ศึกษาพบว่าพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ดีของเด็กนั้นมีเเนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ  เด็กๆรับประทานเเต่อาหารที่ตนชอบ เช่น ขนมหวาน และอาหารฟ๊าดฟูด  แต่หลีกเลี่ยงที่จะกินผักและผลไม้ ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเรื้อรังได้ เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน


โดยสาเหตุหลักๆ ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมกินอาหารที่ไม่ดีนั้น มาจากการตลาดของอุตสาหกรรมอาหาร เช่น อิทธิพลของสื่อ การโฆษณา และความกดดันจากเพื่อนๆ 


ดังนั้น เเม่ๆ ควรสังเกต และดูเเลพฤติกรรมการกินอาหารของลูกๆ อย่างใส่ใจ และใกล้ชิด รวมไปถึงให้ความรู้เกี่ยวกับการกินอาหารที่ถูกต้อง และมีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ลูกๆ ของเเม่ๆ เข้าใจ และมีพฤติกรรมการกินที่ถูกต้อง รวมไปถึงสามารถเลือกอาหารที่ดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพเองได้ค่ะ  


Comments


bottom of page